Rainbow Flower

tutor Eng

                                            ข้อสอบ O-NET ม.6 ปีการศึกษา 2552

                                                       conversation
                                                
1. Situation: Prasert is trying to talk Tom into going to a football match with him.
 Tom: My favorite football team from England is playing against the Thai
 National team this Sunday. I really want to go, but __A__
 Prasert: Oh, come on. Go with me. __B__
 สถานการณ์: ประเสริฐพยายามที่จะพูดคุยทอมจะเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลกับเขา
ทอม: ทีมฟุตบอลที่ชื่นชอบจากประเทศอังกฤษจะเล่นกับไทย
ทีมชาติในวันอาทิตย์นี้ ผมอยากจะไป แต่ __A__
ประเสริฐ: โอ้มา ไปกับฉัน. __B__
A.
 1. I’m sure I’ll enjoy it. . ฉันแน่ใจว่าฉันจะสนุกกับมัน
 2. it’s too late for me to go. สายเกินไปสำหรับผมที่จะไป
3. all the tickets are sold out. ตั๋วทั้งหมดจะถูกขายออกไป
4. my assignment is due on Monday. ที่ได้รับมอบหมายของฉันคือเนื่องจากในวันจันทร์

 B.
 1. Don’t you like football? คุณไม่เช่นฟุตบอล?
2. You shouldn’t hand in the work late. คุณไม่ควรใช้มือในการทำงานในช่วงปลาย
 3. There won’t be another match like this. จะไม่มีการแข่งขันเช่นนี้อีก
 4. We shouldn’t pay anything extra for tickets.  จะไม่มีการแข่งขันเช่นนี้อีก
Ans.1. A.4 B.3

2. Proper nutrition and regular exercise A... you lose weight B... . โภชนาการที่เหมาะสมและการออกกำลังกายปกติA ... ให้คุณลดน้ำหนัก B ...
 A. 1. that are necessary to help ที่มีความจำเป็นที่จะช่วยให้
      2. are necessary to help เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยให้
      3. which can necessarily help  ซึ่งจำเป็นต้องสามารถช่วย
      4. are necessities for helping มีความจำเป็นสำหรับการช่วยให้

 B. 1. and improve your state of fitness และปรับปรุงสถานะของคุณของการออกกำลังกาย
     2. which can improve your fitness state. ซึ่งสามารถปรับปรุงสภาพออกกำลังกายของคุณ
      3. while your fitness state is improved. ในขณะที่รัฐออกกำลังกายของคุณจะดีขึ้น
      4. and can improve your state of fitness . และสามารถปรับปรุงสถานะของคุณของการออกกำลังกาย
Ans.2. A.2 B.1 3.
 3. The committee members think A... now, nor B... about the matter.สมาชิกคณะกรรมการคิด ... ตอนนี้หรือ B ... เกี่ยวกับเรื่องนี้
A. 1. about the meeting which should not hold เกี่ยวกับการประชุมที่ไม่ควรถือ
   2. about the meeting not to be held. เกี่ยวกับการประชุมไม่ได้ที่จะจัดขึ้น
    3. that the meeting should not be holding. ที่ประชุมไม่ควรถือ
    4. that the meeting should not be held. ที่ประชุมไม่ควรที่จะจัดขึ้น

 B. 1. anybody should say. ใครควรจะพูดว่า
     2. should anything be said. สิ่งที่ควรจะกล่าวว่า
     3. should nothing be said. อะไรที่ควรจะกล่าวว่า
    4. something should be said. สิ่งที่ควรจะกล่าวว่า 
Ans 3. A.4 B.2 

4. Ban Na Nong, A , B full of shopping malls and restaurants.บ้านนาหนอง, A, B เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร

 A. 1. a small village, quiet once หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบครั้งเดียว
      2. it was once a quiet small villageมันเป็นครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ
      3. a quiet small village once it was. เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบเมื่อมันเป็น
     4. once a small quiet village ครั้งหนึ่งเคยเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ

B. 1. now a busy town  . ตอนนี้เป็นเมืองที่วุ่นวาย
     2. is now a busy townตอนนี้เป็นเมืองที่วุ่นวาย
     3. a busy town it is now. เมืองที่วุ่นวายก็คือตอนนี้ 
     4. it is now a busy town ตอนนี้เป็นเมืองที่วุ่นวาย
Ans. A.4 B.2

5. A... their customers, supermarkets B... as possible.การลูกค้าของพวกเขาซูเปอร์มาร์เก็ต B ... ที่เป็นไปได้
 A. 1. Having attracted and kept  มีการดึงดูดและเก็บไว้
      2. As if to attract and keep ถ้าเป็นในการดึงดูดและรักษา
      3. In order to attract and keep เพื่อที่จะดึงดูดและรักษา
      4. Attracting and keeping ดึงดูดและการเก็บรักษา

B. 1. want to make shoppers as pleasant. ต้องการให้ผู้ซื้อเป็นที่น่าพอใจ
    2. have made shopping as pleasing . ได้ทำให้การช้อปปิ้งเป็นที่ชื่นชอบ
    3. must try to make their shoppers as pleasing . จะต้องพยายามที่จะทำให้ผู้ซื้อของพวกเขาเป็นที่ชื่นชอบ
   4. have tried to make shopping as pleasant  มีความพยายามที่จะทำให้การช้อปปิ้งเป็นที่น่าพอใจ



6. Nobody knows what's going on?. ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น?

(a)  meaning  ความหมาย                                     (b)  continuing อย่างต่อเนื่อง     
(c)  happening   ที่เกิดขึ้น                                     (d)  taking


7. Don't worry we'll see you're all right.ไม่ต้องกังวลเราจะเห็นคุณเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

(a)  look at you มองคุณ                                    (b)  look on you มองคุณ
(c)  look for you การมองหาคุณ                          (d)  look after youหลังจากที่คุณดู

8. Your friend’s mother is seriously ill. To make your friend feel better, you say “_____” แม่ของเพื่อนคุณป่วยอย่างจริงจัง เพื่อให้เพื่อนของคุณรู้สึกดีขึ้นคุณพูดว่า "_____"

(a) Better luck next time  โชคดีขึ้นในครั้งต่อไป 
 (b)It’s no use crying over spilt milk  มันใช้ไม่ได้ร้องไห้ถึงนมที่หก
(c) Don’t worry, its not important ไม่ต้องกังวลที่สำคัญมันไม่ได้  
 (d) Is there anything I can do?   มีอะไรที่ฉันจะทำอย่างไร


9. Bill is in a restaurant and the waitress who is taking his order asks “______    บิลอยู่ในร้านอาหารและพนักงานเสิร์ฟที่มีการใช้คำสั่งของเขาถามว่า "______
(a) What would you want to eat? สิ่งที่คุณจะต้องการที่จะกิน
 (b) What would you like to eat?  สิ่งที่คุณต้องการที่จะกิน
(c) What do you have to eat?   คุณมีอะไรที่จะกิน         
  (d) What do you think to eat?คุณคิดว่าอะไรที่จะกิน  


  Directions : Choose the best answer for each blank.
A. Situation : Bob and Larry are I a restaurant.
ทิศทาง: เลือกคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละว่างเปล่า

A. สถานการณ์: บ๊อบและแลร์รี่ฉันมีร้านอาหาร

Larry : Bob, ….1….a wonderful restaurant! The food is really…2….and the wine is fantastic. I really like dinning by the river, …3….?
Bob : Yeah, but just wait…4….the bill comes.
Larry : ….5….though. it’s one of the best meals I’ve had….6….a long time. Forget the cost.

Bob : You’re….7…. I shouldn’t be worrying about the money.
แลร์รี่: บ๊อบ ... 0.1 ... .a ร้านอาหารที่ยอดเยี่ยม! อาหารเป็นจริงๆ ... 2 ... .and ไวน์เป็นที่ยอดเยี่ยม ผมชอบรับประทานอาหารริมแม่น้ำ ... 3 ... .
บ๊อบ: ใช่ แต่เพียงแค่รอ ... 4 ... การเรียกเก็บเงินมาได้โดยง่าย
แลร์รี่ ... 0.5 ... .though มันเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมี ... 0.6 ... .a เวลานาน ลืมค่าใช้จ่าย

บ๊อบ: คุณ ... 0.7 ... ฉันไม่ควรจะกังวลเกี่ยวกับเงิน
1.
ตัวเลือกที่ 1 : how วิธีการ
ตัวเลือกที่ 2 : it มัน
ตัวเลือกที่ 3 : there มี
ตัวเลือกที่ 4 : what สิ่งที่
ตอบ 4) เพราะ what a wonderful restaurant! เป็นการอุทานว่าภัตตาคารช่างเยี่ยมจริงๆ
2.
ตัวเลือกที่ 1 : varied ที่แตกต่างกัน
ตัวเลือกที่ 2 : exciting ที่หน้าตื่นเต้น
ตัวเลือกที่ 3 : delicious อร่อย

ตัวเลือกที่ 4 : Abundant อุดมสมบูรณ์
ตอบ 3) เพราะ The food is really delicious อาหารอร่อยมาก
3.
ตัวเลือกที่ 1 : won’t you คุณจะไม่
ตัวเลือกที่ 2 : couldn’t you คุณไม่สามารถ
ตัวเลือกที่ 3 : don’t you คุณไม่

ตัวเลือกที่ 4 : shouldn’t you คุณไม่ควร
ตอบ 3) เพราะ I really like dinning by the river, don’t you ? ฉันชอบรับประทานอาหารริมน้ำ จริงๆ คุณด้วยใช่ไหม
4.
ตัวเลือกที่ 1 : as  เป็น
ตัวเลือกที่ 2 : for สำหรับ
ตัวเลือกที่ 3 : before ก่อน
ตัวเลือกที่ 4 : Until จนกว่า

ตอบ 4) เพราะ Bob ตอบว่า ใช่ แต่รอจนบิลเก็บเงินมาก่อนเถอะ
5.
ตัวเลือกที่ 1 : It’s worth it มันคุ้มค่า
ตัวเลือกที่ 2 : Of course, it would แน่นอนว่ามันจะ
ตัวเลือกที่ 3 : That sounds more interesting ฟังดูน่าสนใจมากขึ้น

ตัวเลือกที่ 4 : There’s an explanation มีคำอธิบายเป็น
ตอบ 1) เพราะ It’s worth it มันก็คุ้มค่านะ it’s one of the best meals มันเป็นมื้อที่ดีที่สุด
6.
ตัวเลือกที่ 1 : at  ที่
ตัวเลือกที่ 2 : since ตั้งแต่
ตัวเลือกที่ 3 : in ใน
ตัวเลือกที่ 4 : of ของ
ตอบ 2) เพราะ it’s one of the best meals I’ve had since a long time. มันเป็นอาหารมื้อที่ดีที่สุด ที่ฉันเคยกินเมื่อนานมาแล้ว
7.
ตัวเลือกที่ 1 : sure ตรวจสอบให้แน่ใจ
ตัวเลือกที่ 2 : right ด้านขวา
ตัวเลือกที่ 3 : great ดี

ตัวเลือกที่ 4 : Real จริง
ตอบ 2) เพราะ you’re right คุณพูดถูกแล้ว I shouldn’t be worrying about the money. ฉันไม่ น่าจะคิดมากเรื่องเงิน


8. Situation : A secretary is talking to a caller. Caller : This is Jim Smith. Can I speak to Mr. Johnson, please? Secretary : A Caller: B Secretary: I’ll tell him as soon as I see him.

 A. 1. Pardon me. I don’t know him. 
2. Can you talk to him now? 
3. I’m afraid he’s just gone out. 
4. Sorry. He doesn’t want to speak to you.

 B. 1. Could I hold on?
 2. Can you call me later? 
3. Can you ask him to return my call?
 4. Could I return his call later?

1. สถานการณ์ เลขานุการกำลังสนทนากับผู้ที่โทรศัพท์เข้ามา
 คำตอบข้อ A คือ 3
 คำตอบข้อ B คือ 3 โจทย์ข้อ
 A เป็นคำตอบที่เลขานุการตอบคำถามของจิม สมิทธิ์ ที่จะขอพูดสายกับคุณจอห์นสัน
 ข้อ 1 เป็นการขอโทษและบอกว่าไม่รู้จัก ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เลขานุการจะไม่รู้จักเจ้านาย ประโยค “Pardon me.” มักใช้ในสถานการณ์ดังนี้คือ 1. ขอโทษในขณะที่ทำผิด 2. ก่อนที่จะเสนอข้อคิดเห็นแย้งใน ระหว่างที่สนทนากัน 3. ขอให้คู่สนทนาพูดซ้ำอีกเมี่อฟังคำพูดของคู่สนทนาไม่ชัดเจน ข้อนี้จึงไม่ถูกเพราะ การใช้คำที่ผิดและเหตุผลที่ไม่มีน้ำหนัก
 ข้อ 2 เป็นการถามกลับว่าจิม สมิทธิ์ จะพูดกับท่านเดี๋ยวนี้ได้ไหม ซึ่งไม่ได้เป็นการตอบรับสิ่งที่จิมถาม และนอกจากนี้ยังไม่สอดคล้องกับบทสนทนาที่ให้ไว้ ข้อนี้จึงไม่ใช่ข้อที่ถูก 
ข้อ 3 เป็นการตอบของเลขานุการว่า เกรงว่าท่าน (คุณจอห์นสัน) เพิ่งออกไป ข้อนี้เป็นข้อที่ถูกเพราะเป็น ข้อที่ตอบคำถามที่ตรงที่สุด
 ข้อ 4 เป็นการแสดงการขอโทษ / เสียใจ และบอกว่าท่าน (คุณจอห์นสัน) ไม่ต้องการพูดกับคุณ (จิม สมิทธิ์) ทั้ง ๆ ทื่เจ้านายยังไม่ทราบเลยว่ามีคนโทรศัพท์มาหา ข้อนี้จึงไม่ใช่ข้อที่ถูกเพราะไม่สมเหตุสมผล โจทย์ข้อ B เป็นการขอร้องของจิม สมิทธิ์ ซึ่งต้องสอดคล้องกับคำตอบรับของเลขานุการที่บอกว่า “ดิฉัน จะเรียนให้ท่านทราบทันทีที่เห็นท่าน” ข้อ 1 บอกว่า ผมจะถือสายรอได้ไหม ข้อนี้ไม่ถูกเพราะจิมทราบแล้วว่าเขาไม่อยู่ ข้อ 2 บอกว่า คุณจะโทรมาหาผมภายหลังได้ไหม ข้อนี้ไม่ถูกเพราะจิมต้องการพูดกับคุณจอห์นสัน ไม่ ได้ต้องการพูดกับเลขานุการ ข้อ 3 บอกว่า คุณช่วยขอให้ท่านโทรกลับมาหาผมได้ไหม ข้อนี้ถูกเพราะสอดคล้องกับคำตอบรับของ เลขานุการ ข้อ 4 บอกว่า ผมจะโทรตอบกลับไปหาท่านภายหลังได้ไหม ข้อนี้ไม่ถูกเพราะคุณจอห์นสันไม่ได้โทรหา จิม

9. Situation : Prasert is trying to talk Tom into going to a football match with him.
          Tom :           My favorite football team from England is playing against the Thai National team this Sunday. I really want to go, but  ..  A....
        Prasert :        Oh, come on. Go with me... B ...

A. 
1. I’m sure I’ll enjoy it. 
2. it’s too late for me to go. 
3. all the tickets are sold out.
 4. my assignment is due on Monday.

 B. 
1. Don’t you like football? 
2. You shouldn’t hand in the work late. 
3. There won’t be another match like this. 
4. We shouldn’t pay anything extra for tickets. 


9. สถานการณ์ ประเสริฐพยายามพูดชักชวนทอม ให้ไปดูการแข่งขันฟุตบอลกับเขา
 ทอม :        ทีมฟุตบอลจากอังกฤษที่ผมชอบ จะมาเล่นกับทีมชาติไทยวันอาทิตย์นี้ ผมอยากไปดูจริงๆ แต่ A 
ประเสริฐ :       โธ่ ไปกับผมเถอะ B 
 คำตอบข้อ A คือ 4
 คำตอบข้อ B คือ 3 
โจทย์ข้อ A คำตอบที่ถูกต้องแย้งกับข้อความที่มาข้างหน้า เนื่องจากมี but เป็นตัวเชื่อม
 ข้อ 1 บอกว่า ผมมั่นใจว่าผมจะสนุกกับการแข่งขัน ข้อนี้ไม่ถูก เพราะความหมายสอดคล้อง กับประโยคที่มาก่อน
 ข้อ 2 บอกว่า มันสายไปแล้วที่ผมจะไป ข้อนี้ไม่ถูกเพราะยังไม่ทันถึงวันแข่งขัน
 ข้อ 3 บอกว่า ตั๋วขายหมดแล้ว ข้อนี้ก็ไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะเป็นการแย้งกับประโยคที่มาก่อนก็ ตาม แต่เนื้อหาไม่สอดคล้องกับประโยคสุดท้ายที่ประเสริฐพูด
 ข้อ 4 บอกว่า การบ้านของผมถึงกำหนดส่งวันจันทร์ ข้อนี้ถูกเพราะว่าให้ข้อมูลแย้งว่าไปไม่ได้ เพราะอะไร โจทย์ข้อ

 B คำตอบที่ถูกจะต้องเป็นคำพูดของประเสริฐที่ขยั้นขยอให้ทอมไปกับเขา 
ข้อ 1 บอกว่า คุณไม่ชอบฟุตบอลหรอกหรือ ข้อนี้ไม่ถูก เพราะเป็นการย้อนถามทั้งๆ ที่ทราบ อยู่แล้วว่าเขาชอบ
ข้อ 2 บอกว่า คุณไม่ควรส่งงานช้า ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่ได้เป็นการชวนแต่เป็นการ ห้ามปรามเสียด้วยช้ำ 
ข้อ 3 บอกว่า จะไม่มีการแข่งขันอื่นที่จะเหมือนครั้งนี้ ข้อนี้ถูก เพราะเป็นการโน้มน้าว ชักชวนให้ทอมไปให้ได้ 
ข้อ 4 บอกว่า ไม่ควรจ่ายค่าตั๋วเพิ่ม ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่สอดคล้องกับบทสนทนา และ ไม่ได้เป็นการชักชวน แต่เป็นการห้าม


10. Situation : A student wants to see his instructor, Mr. Benson. 
 Student :     Excuse me,  A
 Mr. Benson :   B   Oh, yes. I won’t be doing anything then.
 A. 
1. Don’t you have any free time at all?
 2. What time will you be free ? 
3. I wonder if you would be available at two this afternoon.
 4. Would you mind if I came to see you when you are available? 

B.
 1. Please do.
 2. Let me see.
 3. Please take a look.
 4. I have plenty of time.


10. สถานการณ์ นักเรียนต้องการที่จะพบมิสเตอร์เบนสันซึ่งป็นอาจารย์ นักเรียน : ขอโทษครับอาจารย์เบนสัน A อาจารย์เบนสัน : B โอได้สิ ครูไม่ได้ทำอะไรตอนนั้น
 คำตอบข้อ A คือ 3 คำตอบข้อ
 B คือ 2 100คู่ มื อ เ ต รี ย ม ส อ บ O - N E T ม. 6, G A T / P A T โจทย์ข้อ A ต้องเป็นการนัดหมายเวลาที่จะมาพบอาจารย์ 
ข้อ 1 บอกว่า อาจารย์จะไม่มีเวลาใดว่างเลยหรือครับ ข้อนี้ไม่ถูกเพราะเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะ สม เป็นการกล่าวบททั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถามอาจารย์เลยว่าจะว่างเมื่อไหร่
 ข้อ 2 บอกว่า เวลาไหนที่อาจารย์จะว่าง ข้อนี้ไม่ถูกเพราะจะไม่สอดคล้องกับคำพูดของอาจารย์ ที่ให้ไว้
 ข้อ 3 บอกว่า ผมอยากทราบว่าอาจารย์จะว่างตอนบ่าย 2 โมงนี้ไหมครับ ข้อนี้ถูกเพราะเป็น การถามอย่างสุภาพและบ่งบอกเวลาที่ต้องการจะมาพบด้วย ซึ่งสอดคล้องกับคำตอบรับของ อาจารย์ 
ข้อ 4 บอกว่าจะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะมาหาเมื่ออาจารย์ว่าง ข้อนี้ไม่ถูกเพราะถึงจะเป็นการ ถามที่สุภาพแต่คำถามก็ไม่สอดคล้องกับคำตอบของอาจารย์ โจทย์ข้อ 
B คำตอบจะต้องเป็นเรื่องเวลาที่อาจารย์ต้องตรวจสอบก่อนว่าว่างหรือไม่ ข้อ 1 บอกว่า เชิญทำ ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่ทราบว่าทำอะไร
 ข้อ 2 บอกว่า ขอให้ครูดูก่อน ข้อนี้ถูกเพราะอาจารย์จะต้องตรวจสอบว่าว่างหรือไม่ตามเวลา ที่นักเรียนขอมา
 ข้อ 3 บอกว่า เชิญมาดู ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่ทราบว่าจะให้นักเรียนดูอะไร ข้อ 4 บอกว่า ครูมีเวลาเยอะมาก ข้อนี้ไม่ถูกเพราะไม่ได้บอกว่าว่างหรือไม่



                                        reading


Read the passage and choose the best answer to each question that follows.

Superstition is the fear of what is unknown and mysterious. It is a worldwide phenomenon. It has come down to us from ancient times. Superstitions originated when man was helpless before nature. The element of fear and lack of scientific knowledge gave rise to superstitions. They are more deep rooted in India than in the other countries. Some superstitions are supposed to bring illluck and danger while some others are supposed to bring luck and happiness. Superstitions sometimes lead to horrifying crimes like child sacrifices and burning of women who are believed to be witches. One should follow a superstitions belief only if it has a logical as well as a scientific reasoning behind it.


ไสยศาสตร์คือความกลัวในสิ่งที่ไม่เป็นที่รู้จักและลึกลับ มันเป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก จะได้ลงมาให้เราตั้งแต่สมัยโบราณ ความเชื่อโชคลางเกิดขึ้นเมื่อชายคนก่อนที่จะทำอะไรไม่เป็นธรรมชาติ องค์ประกอบของความกลัวและการขาดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก่อให้เกิดความเชื่อโชคลาง พวกเขาจะฝังรากลึกมากขึ้นในอินเดียกว่าในประเทศอื่น ๆ ความเชื่อโชคลางบางอย่างที่ควรจะนำ illluck และอันตรายขณะที่บางคนที่ควรจะนำโชคและความสุข ความเชื่อโชคลางบางครั้งนำไปสู่การก่ออาชญากรรมที่น่ากลัวเช่นการเสียสละของเด็กและการเผาไหม้ของผู้หญิงที่เชื่อว่าจะเป็นแม่มด หนึ่งควรเป็นไปตามความเชื่อโชคลาง แต่ถ้ามันมีตรรกะเช่นเดียวกับการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังมัน

1. What is the root cause of superstition?สิ่งที่เป็นสาเหตุของความเชื่อทางไสยศาสตร์ราก?

 1. Fear  กลัว
 2. Fear and rationalism  ความกลัวและ หลักการให้หรือใช้เหตุผล
 3. Worldwide phenomenon    ปรากฏการณ์ทั่วโลก
 4. Lack of scientific knowledge การขาดความรู้ทางวิทยาศาสตร์
 5. Fear and lack of scientific knowledge  ความกลัวและการขาดความรู้ทางวิทยาศาสตร์

Ans...5. Fear and lack of scientific knowledge

No comments:

Post a Comment